ขยายความ "ความเข้าใจเรื่องสวนป่าเอกชน"
ตามมาตรา 47 พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 ไม้สักและไม้ยางไม่ว่าจะขึ้นอยู่ หรือปลูกขึ้น ณ ที่ใด ๆ (ที่ป่าหรือที่ดินกรรมสิทธิ์ก็ตาม) เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก มิใช่ทรัพย์สินส่วนควบของดินใด ๆ การตัด การแปรรูป การนำเคลื่อนที่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ถ้าปลูกขึ้นมาเองบนที่ดินกรรมสิทธิ์ใด ๆ ก็ตาม ต้องได้รับอนุญาต แต่เพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับ ประชาชนที่จะประกอบการปลูกป่าเป็นอาชีพ จะต้องนำที่ดินไปขึ้นทะเบียนสวนป่า ตาม พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 5 ไม้สักและไม้ยางและไม้หวงห้ามอีก 171 ชนิด ก็จะได้รับสิทธิในการคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชนเจ้าของที่ดินและสวนป่านั้น ๆ จึงจะนำที่ดินมาขึ้นทะเบียนสวนป่าได้ ไม้อื่น ๆ ในป่า (นอกประเภทหวงห้าม) เป็นทรัพย์สินส่วนควบของที่ดินกรรมสิทธิ์ จึงไม่จำเป็นต้องนำที่ดินไปขึ้นทะเบียนสวนป่าแต่อย่างใด จะตัด แปรรูป หรือนำเคลื่อนที่ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อนำเคลื่อนที่ออกนอกที่ดินหากมีเจ้าหน้าที่ตรวจจับก็จะพิสูจน์ได้ยากกว่าเป็นไม้ในดินกรรมสิทธิ์ ความไม่สะดวกจึงเกิดขึ้นกับประชาชนแสดงสิทธิไม่ได้ พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ. 2535 จึงคุ้มครองเฉพาะไม้สักและยางและไม้หวงห้ามอีก 171ชนิด ให้กับประชาชน เพราะว่าไม้อื่น ๆ กลายเป็นทรัพย์สินส่วนควบของที่ดินไป ข้อความตรงนี้แสดงให้เห็นว่า พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ. 2535ไม่ครอบคลุมผลประโยชน์ของประชาชนเท่าที่ควร โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นไม้นอกประเภทหวงห้าม หรือไม้ต่างประเทศที่ปลูกนอกที่ดินกรรมสิทธิ์ คือ ปลูกในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ กรณีเช่นนี้ประชาชนจะต้องไปปฎิบัติตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 15 ประชาชนที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน จึงเสียสิทธิพึงได้ไป โดยเฉพาะการปลูกไม้โตเร็วที่มีอายุการตัดขายได้ในระยะสั้น ใช้ต้นทุนน้อย เช่น ไม้ยูคาลิปตัส ไม้กระถินเทพา ไม้กระถินออราโคคาร์ปา (หรือกระถินณรงค์ต้นตรงพันธุ์ใหม่) |
|
ประเภทของที่ดินที่จะนำมาขอขึ้นทะเบียนสวนป่า ตามพ.ร.บ.นี้ได้ต้องเป็นประเภทใดประเภทหนึ่งดังนี้นะคะ คือ |
|
พ.ร.บ.ที่ดินทั้ง 5 ข้อดังกล่าวข้างต้น ขาดไปส่วนหนึ่งที่ทำให้เสียผลประประโยชน์ของประชาชนไปได้คือ ที่ดินตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ซึ่งสามารถขออนุญาตปลูกป่าไม้ตามมาตรา 54 ซึ่งนำไปขึ้นทะเบียนสวนป่าไม่ได้เว้นแต่จะตราลงไปเป็นข้อ 6 คือ พื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 อันหมายถึง พื้นที่ป่านอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอุทยานแห่งชาติ แต่อย่างไรก็ตาม มีที่ดินบางประเภทที่ได้มีการออกเอกสารสิทธิของทางราชการ แต่เป็นเพียงใบรับแจ้งความของการครอบครองที่ดินซึ่งในทางปฎิบัติกำนันเจ้าของท้องที่เป็นผู้รับแจ้งจึงมิใช่เอกสารสิทธิพร้อมที่นำไปรับโฉนดหรือ น.ส.3 ได้ตามนัยแห่งข้อ 2 ของมาตรา 4 ในพ.ร.บ.สวนป่า 2535 เพราะ ส.ค. 1 นั้นยังไม่มีการสำรวจว่าได้ทำประโยชน์ก่อนประมวลกฎหมายที่ดิน (1 ธันวาคม 2497) ถูกต้องหรือไม่ |
|
ด้วยเหตุดังกล่าวนี่เอง ฉะนั้นไม้ที่มีอยู่หรือปลูกขึ้นจึงมีสภาพเป็นไม้ป่า และถูกบังคับ โดยพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 เว้นแต่จะได้สำรวจถูกต้องแล้วเพียง การรอรับโฉนด หรือ น.ส.3 เท่านั้นสำหรับ ภ.บ.ท. (5หรือ6)เป็นเพียงใบเสร็จรับเงิน การชำระเงินภาษีบำรุงท้องที่ ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร ไม่ก่อให้เกิดสิทธิใด ๆ ตามประมวลกฎหมายที่ดินจึงไม่สามารถนำไปขอโฉนดหรือ น.ส.3 ได้ส.ท.ก คือเอกสารสิทธิให้สิทธิกินแก่บุคคลในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามความในมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ไม่ก่อให้เกิดสิทธิใด ๆ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน จึงไม่สามารถที่จะนำไปออกโฉนด หรือ น.ส.3ได้ |
|
ที่ดิน 3 ประเภทหลังนี้ไม่สามารถนำไปขอขึ้นทะเบียนสวนป่าไม้ได้ พ.ร.บสวนป่า2535 จึงครอบคลุมไม่ถึงปัญหาที่ตามมา คือของป่าที่ผลิตได้จากสวนป่า ในพ.ร.บ สวนป่า พ.ศ. 2535 มิได้บัญญัติคำว่า ของป่า ไว้ด้วย ดังนั้น การจะนำผลผลิตจากป่าออกมาจึงเป็นปัญหาโดยเฉพาะการจะตัดไม้ออกมาเผาเอาถ่านฟืน เปลือกไม้ ยาง ดอกไม้ เหง้า เมล็ด ผล ชันไม้ น้ำมัน กล้วยไม้ น้ำผึ้ง เห็ด ควรจะได้รับการยกเว้นด้วย แนวทางแก้ไข คือ เพิ่มความหมายของคำว่าไม้ ให้ครอบคลุมถึงบรรดาของป่าที่เกิดขึ้นหรือมีอยู่ในสวนป่านั้นด้วย |
ที่มา:งานศูนย์บริการวิชาการและฝึกอบรม
ฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะทรัพยากรธรรมชาติ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
*****************************************************************************************************************************************************
สนใจกล้าพันธุ์ไม้ปลูกป่าทุกชนิด
ติดต่อคุณไก่ 095-4654546
และอีกอย่างที่มีปัญหาอยู่ยังไม่ได้รับการแก้ไข คือป่าไม้สนับสนุนการปลูกป่า แต่ไม่ได้ให้คำแนะนำที่ถูกต้อง ในเรื่องที่ดินประเภทใดที่ปลูกแล้วตัดได้หรือไม่ได้ พอชาวบ้านปลูกไปแล้วตัดไม่ได้ ไม่มีใครกล้าซื้อ บางคนมีที่10ไร่ 20 ไร่ ก็ปลูกป่าสัก กันหมด พอโตขายไม่ได้ และยังปลูกอย่างอื่นไม่ได้ด้วย เพราะต้นสักโตเป็นป่าไม่มีแสงส่องถึงพื้นดินแล้ว จะตัดก็ไม่กล้าตัดกลัวติดคุก ที่กู้เงินมาปลูกป่าก็เป็นหนี้ดอกเบี้ยท่วมหัว ที่ดีก็คือเราได้ป่ากลับคืนมา แต่คนที่เสียเงินและลงแรงปลูกป่ากลับไม่ได้อะไรเลย แถมยังเป็นหนี้อีก